Wadi Rum Protected Area


ถ้าคุณอยากเที่ยว คุณได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้!!!!    พบกันอีกครั้งกับไอญ่าคนเดิมและจะพาคุณเคลิ้มกับบรรยากาศที่แสนอบอุ่นและมีคุณค่าจนได้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติผสมกับทางวัฒนธรรม นั้นก็คือ Wadi Rum Protected Area " สิ่งที่คุณจะเห็นต่อไปนั้นอาจจะทำให้คุณหลงรักและอยากบินข้ามฟ้าแล้วปล่อยลงกลางทะเลทรายเลยทีเดียว (ขนลุกหรือยัง? ถ้ายัง งั้นไปดูกันเลย)


.........................................................


ยังไงเล่าสิ Wadi Rum Protected Area ?


ภาพจาก https://whc.unesco.org/en/list/1377/gallery/&maxrows=45

Wadi Rum Protected Area เขตอนุรักษ์วาดิรัม หรือเรียกอีกชื่อ "หุบเขาแห่งพระจันทร์"  
(The Valley of the Moon) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศจอร์แดน ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 2011 


ภาพจาก https://whc.unesco.org/en/list/1377/gallery/&maxrows=45

หุบเขาท่ามกลางทะเลทรายที่สวยงามตามธรรมชาติมีประวัติศาสตร์ที่สำคํญในสมัยสงครามโลกครั้งที่1เป็นฐานทัพในการต่อสู้รบกับตุรกีของทหารชาวอังกฤษT.E.Lawrenceและสร้างสัมพันธมิตรกับชนเผ่าทะเททรายแห่งนี้อีกด้วย

ภาพจาก https://whc.unesco.org/en/list/1377/gallery/&maxrows=45


เป็นสถานที่ที่เคยเป็นทะเลมาก่อน และเมื่อผ่านกาลเวลามาหลายปีจนทำให้น้ำทะเลเหือดแห้งหายไปเหลือเพียงภูมิทัศน์ที่สวยงามและแตกต่างจากที่อื่น

ภาพจาก https://whc.unesco.org/en/list/1377/gallery/&maxrows=45

ภาพจาก https://whc.unesco.org/en/list/1377/gallery/&maxrows=45

ภูเขาหินทรายและหินแกรนิต ขนาดยักษ์ ผิวขรุขระ ที่เปรียบเสมือนพื้นใต้มหาสมุทรเรียงรายอย่างสวยงาม

ภาพจาก https://whc.unesco.org/en/list/1377/gallery/&maxrows=45

 ทรายสีชมพู เก๋กู๊ดดดดดดดดดด!!
ทรายเนื้อละเอียดที่จะเปลี่ยนสีไปตามแสงของพระอาทิตย์


ภาพจาก https://madamemontour.com
โดยในช่วงเช้าจมีสีเหลืองทอง ช่วงบายจะเป็นสีชมพูและช่วงเย็นเป็นสีชมพูเข้มอมส้ม


ภาพจากhttps://whc.unesco.org/en/list/1377/gallery/&maxrows=45

มีเพียงพืชไม่กี่ชนิดที่สามารถอยู่ได้ แต่ก็สวยมากเช่นเดียวกัน


ภาพจาก https://whc.unesco.org/en/list/1377/gallery/&maxrows=45

ภาพเขียนฝาผนังของมนุษย์ยุคโบราณ Nabateans )ซึ่งเป็นชนพื้นถิ่นเร่ร่อน ภาพสัตว์ มนุษย์ และภาษาอาราบิก 
บ่งบอกถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมเมื่อ2,000 ปีก่อน 


ภาพจากhttps://whc.unesco.org/en/list/1377/gallery/&maxrows=45

ภาพเขียนสัตว์ แสดงให้เห็นถึงสัตว์ที่เลี้ยงอยู่ในตอนนั้น และมันก็คือ "อูฐ " นั้นเอง #ตำนานที่ยังมีลมหายใจ!!!


ภาพจาก https://whc.unesco.org/en/list/1377/gallery/&maxrows=45

ฟิลกู๊ดดดดดดด!!เพิ่มความเป็นจอร์แดนดินแดนแห่งทะเลทรายนั้นต้องมีอูฐ และอย่าลืมขี่อูฐลงสตอรี่เก๋ๆเด้อ


.................................

ดูเหมือนว่าความแห้งแล้งนั้นจะเป็นสถานที่ที่มีความลำบากในการดำรงชีวิตแต่กลับสร้างเอกลักษณ์ที่มีเสน่ห์และสวยงามซ่อนไว้ในวิถีชีวิตควบคู่กับวัฒนธรรมได้อย่างลงตัว สื่อผ่านธรรมชาติเป็นแหล่งบันทึกเรื่องราวในอดีต       
เป็นสิ่งที่มหัสจรรย์และควรค่าที่จะตามหามากๆ

.................................





อ้างอิงข้อมูลจาก

UNESCO.(2018).Wadi Rum Protected Area.สืบค้นเมื่อ 31 สิงหาคม 2563จากhttps://whc.unesco.org/en/soc/3690/

UNESCO World Heritage Centre.(2014).Report on The World Heritage Centre-ICOMS-IUCN  reactive monitoring mission to                          Wadi Rum Protected Area.สืบค้นเมื่อ 1 สิงหาคม 2563  จากhttp://whc.unesco.org/en/documents/129738       


ความคิดเห็น

  1. โอ้โห น่าไปเที่ยวมากๆเลยค่ะ แต่ต้องเตรียมกันแดดไปเยอะเลยเพราะดูจากภาพน่าจะไหม้เป็นปลาย่างแน่ๆ

    ตอบลบ
  2. พึ่งจะรู้ว่ามีสถานที่แบบนี้ที่ประเทศจอร์แดนด้วย น่าไปมากๆเลยค่ะสำหรับคนที่ชอบและอยากจะศึกษาวัฒนธรรม

    ตอบลบ
  3. นำเสนอได้น่าสนใจมากค่ะ อยากลองไปขี่อูฐที่จอร์แดนซักครั้งในชีวิต

    ตอบลบ
  4. เห็นรูปภาพในบล็อกแล้วอยากไปเที่ยวไปศึกษามากเลยค่ะ

    ตอบลบ
  5. ดูรูปแล้วอยากไปเลยค่ะ ไม่คิดว่าจอร์แดนจะมีที่น่าไปแบบนี้ด้วย น่าสนใจดี

    ตอบลบ
  6. บรรยายได้เห็นภาพเลยนะคะ เตรียมแพ็กของใส่กระเป๋าเดินทางกันเลบทีเดียว สถานที่น่าสนใจน่าผจญภัยจริงๆค่ะ

    ตอบลบ
  7. รูปภาพเยอะมากทำให้เห็นภาพชัดเจนเลยค่ะ อยากลองไปดูทะเลทรายสีชมพูเลยจะสวยขนาดไหนนะ

    ตอบลบ
  8. บรรยายได้น่าไปเที่ยวมากๆๆเลยค่ะ ครีมกันแดดต้องเตรียมไปหลายๆหลอดแน่เลย!

    ตอบลบ
  9. แค่อ่านก็สัมผัสได้ถึงความฮอตและร้อนแรงแล้วค่ะ

    ตอบลบ
  10. พิมพ์ผิดนิดหน่อย แต่โอเค

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น